เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2559 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ได้จัดกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปีการศึกษา 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและสดุดีในพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และส่งเสริมให้นักเรียนได้มีส่วนร่วม และแสดงออกทางด้านวิทยาศาสตร์ตามความสนใจ ตลอดจนเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนเห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ พิธีบวงสรวงพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย พิธีวางพวงมาลัยรำลึกคุณูปการและสักการะรูปหล่อนักวิทยาศาสตร์เอกของโลก การแสดงนิทรรศการวันวิทยาศาสตร์ไทย การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ การประกวดสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ และการแข่งขันจรวดขวดน้ำ เป็นต้น
admin
การพัฒนาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง ประโยค สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนครบุรี
ชื่อเรื่อง : การพัฒนาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง ประโยค สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนครบุรี
ชื่อผู้ศึกษาค้นคว้า : นางบุญธรรม รุ่งเรือง
ปีการศึกษา : 2558
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง ประโยค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนครบุรี ให้ได้ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง ประโยค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนครบุรี 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง ประโยค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนครบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 41 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าคือ ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง ประโยค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่มีค่าความยากง่าย ตั้งแต่ 0.37 – 0.79 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.21 – 0.47 และค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.83 และแบบประเมินความพึงพอใจ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.75 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบ ค่าที (t-test Dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1) ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง ประโยค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนครบุรี ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.79/82.28 ถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง ประโยค หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง ประโยค สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนครบุรี มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.42 อยู่ในระดับ มาก
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น
ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้าง
สรรค์โดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี
ชื่อผู้วิจัย : นางบุญธรรม รุ่งเรือง
ปีการศึกษา : 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาผล การทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 โรงเรียนครบุรี อำเภอ ครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 37 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการกิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจัดการจัดการเรียนรู้ จำนวน 7 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย ตั้งแต่ 0.41 – 0.79 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.24 – 0.47 และมีค่าความเชื่อมั่น 0.78 แบบทดสอบแบบอัตนัย จำนวน 2 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น 0.77 แบบวัดทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ และแบบประเมินความพึงพอใจ มีค่าความเชื่อมั่น 0.78 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
- ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่น นิสซึ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี พบว่า การจัดการศึกษามีสภาพที่คาดหวังคือเพื่อมุ่งปฏิรูปการเรียนรู้โดยยึดหลักผู้เรียนเป็นสำคัญ หลักการเรียนรู้ด้วยตนเองและหลักการเรียนรู้ตลอดชีวิตเน้นพลังความคิดสร้างสรรค์ การสร้างนิสัยรักการอ่าน การจัดการเรียนรู้ต้องปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนไป จากเดิม คือ เปลี่ยนจากการสอนความรู้เป็นการสอนวิธีการเรียนรู้ ซึ่งเทคนิควิธีการเรียนรู้ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะนำมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ซึ่งมีหลักการที่ว่าความรู้ไม่ใช่เกิดจากการสอนของครูเพียงฝ่ายเดียว การเรียนรู้ที่ดีเกิดจากการลงมือกระทำด้วยตนเอง ส่วนการจัด การเรียนรู้ในโรงเรียนครบุรี ผู้เรียนยังขาดการพัฒนาทักษะกระบวนการคิดจึงส่งผลต่อการเรียนด้านทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์และสภาพปัญหาการเรียนด้านทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี อยู่ในระดับมาก ( = 3.73, S.D. = 1.27)
- รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี เรียกว่า “PIDARE Model” ประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระหลัก สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน ซึ่งมีค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.62/82.16
- ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2) ทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
- ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์โดยใช้ข้อมูลในท้องถิ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (= 4.26, S.D. = 0.84)
คำสำคัญ : รูปแบบการกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม, ทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์
สานฝันสู่นายทหาร
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์พานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 210 คน ไปทัศนศึกษา ณ โรงเรียนเตรียมทหารและโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เมื่อวันที่ 20 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนมีความใฝ่ฝันที่จะศึกษาที่โรงเรียนเตรียมทหารและโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าต่อไป
โรงเรียนครบุรีร่วมรณรงค์ออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 4 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 08.00 น. คณะครูและนักเรียนโรงเรียนครบุรี ได้ร่วมเดินขบวนภายในเขตเทศบาลตำบลแชะเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนร่วมออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการจัดขึ้นในวันที่ 7 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 ร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ในอำเภอครบุรี ได้แก่ สถานีตำรวจภูธรครบุรี เทศบาลตำบลแชะ สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอครบุรี ที่ทำการปกครองอำเภอครบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษานครราชสีมา เขต 3 โรงเรียนบ้านใหม่พิทยาคม โรงเรียนเฉลียงพิทยาคม โรงเรียนครบุรีวิทยา โรงเรียนบ้านแชะ และศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอครบุรี พร้อมด้วยกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลและสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ โดยมีนายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย นายอำเภอครบุรี เป็นประธานและได้ร่วมเดินขบวนในครั้งนี้ด้วย สำหรับการร่วมเดินขบวนรณรงค์ให้ประชาชนร่วมออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นเพิ่มเติมครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยครั้งแรกนั้น ได้มีการร่วมเดินขบวนรณรงค์ให้ประชาชนร่วมออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นเพิ่มเติมไปเมื่อวันที่ 1 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559
คณะผู้บริหารและครูโรงเรียนวังโป่งพิทยาคมมาศึกษาดูงานโอเน็ตที่โรงเรียนครบุรี
เมื่อวันที่ 29 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559 คณะผู้บริหารและครูโรงเรียนวังโป่งพิทยาคม อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ได้มาศึกษาดูงานด้านการจัดการเรียนการสอนเพื่อมุ่งหวังผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) เนื่องจากโรงเรียนครบุรีมีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) ทั้งระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในลำดับต้น ๆ ของจังหวัดนครราชสีมา มาเป็นเวลานานหลายปีติดต่อกัน โดยมีนางพิรมย์ ภักดีแก้ว และนางจุไรรัตน์ ปรากฎมาก เป็นวิทยากร
กิจกรรม “สืบสานงานศิลป์ ถิ่นเพลงโคราช”
เมื่อวันที่ 29 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จัดกิจกรรม “สืบสานงานศิลป์ ถิ่นเพลงโคราช” แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 – 5/6 ณ ห้องโสตทัศนศึกษา เพื่อให้นักเรียนเห็นคุณค่าของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาวนครราชสีมา และร่วมกันอนุรักษ์และสืบสานเอกลักษณ์ท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป โดยมีครูเพลงโคราชผู้มีชื่อเสียงของจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ นายบุญสม สังข์สุข (บุญสม กำปัง) นายกสมาคมเพลงโคราช คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา และนางสาวลำไย พานิชย์ (ลำไย หนองม่วง) ประชาสัมพันธ์สมาคมเพลงโคราช คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เป็นวิทยากรให้ความรู้